PLIC will contribute to Thai Industries
private-policy

ประกาศ บริษัท พลิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทฯ ในเครือ
ที่ PDPA 001/2565

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท พลิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทฯ ในเครือ


บริษัท พลิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทฯ ในเครือ มีความตระหนักและให้ความสำคัญในความเป็นส่วนตัว และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคลากร ลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยบริษัทฯ ปฏิบัติตามหลักของกฎหมาย และตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯจัดเก็บนำไปใช้ในทางที่ผิด จึงประกาศนโยบาย ดังต่อไปนี้

1.ขอบเขตของนโยบาย
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิที่ท่านมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทฯ มีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลที่บริษัทฯ ได้ให้บริการ และหรือที่บริษัทฯได้รับจากท่าน

2.คำนิยาม
 2.1 “บริษัทฯ” หมายถึง บริษัท พลิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทฯ ในเครือ และหมายถึงผู้กระทำการแทนบริษัทฯ ดังกล่าวด้วย
 2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม รวมถึงข้อมูลของผู้ควบคุมข้อมูลหรือเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ เพื่อให้บริษัทดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาบริการ โดยแบ่งข้อมูลส่วนบุคคลออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
  2.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ชื่อ – นามสกุล และชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ชื่อผู้ใช้ อีเมล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน หรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้รู้ตัวบุคคลนั้นได้ เช่นลายพิมพ์นิ้วมือ หรือแผ่นบันทึกลักษณะเสียงของคน หรือรูปถ่ายและให้หมายความถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมแล้วด้วย
  2.2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ พ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคลกำหนดให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวไปต่างประเทศ เมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลทางพันธุ์กรรม ข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เพื่อวัตถุประสงค์ยืนยันตัวตน หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
 2.3 “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” Data Controller (DC) หมายถึง นิติบุคคลที่เป็นผู้รับบริการของบริษัทฯ และบริษัทที่เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
 2.4 “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” Data Processor(DP) หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาบริการ โดยบริษัทฯ ไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
 2.5 “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” Data Subject (DS) หมายถึง บุคคลธรรมดาเท่านั้น ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ถูกระบุหรือสามารถถูกระบุตัวได้ด้วยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น และไม่รวมถึง “นิติบุคคล” ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กร

3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
 3.1 บริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
 3.2 บริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
  1) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
  2) เพื่อประโยชน์ต่อการป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ หรือ ความปลอดภัย
  3) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีความผูกพันระหว่างกัน
  4) เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล ตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมาย
  5) เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านและการขอความยินยอมไม่อาจจะกระทำได้ในเวลานั้น
  6) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  7) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและการปราบปรามฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญาประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่งและอาญาเป็นต้น
 3.3 บริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่น ๆ เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็น และได้รับความยินยอมจากท่านเท่านนั้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการต่อท่านให้ดียิ่งขึ้น
 3.4 บริษัทฯ อาจจะสอบถามและจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมจากท่านเพื่อใหข้อมูลนั้นมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีความสมบูรณ์อยู่เสมอ

4.การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
 4.1 บริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน และจะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ เท่านั้น บริษัทฯ จะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์หรือต่อบุคคลภายนอกเว้นแต่
  1) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพของท่าน
  2) เพื่อประโยชน์ต่อการป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ หรือความปลอดภัย
  3)เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีความผูกพันระหว่างกัน
  4)เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล ตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมาย
  5)เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านและการขอความยินยอมไม่อาจจะกระทำได้ในเวลานั้น
  6)เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  7)เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและการปราบปรามฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญาเป็นต้น
 4.2 บริษัท อาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทฯ กำหนด
 4.3 ในบางกรณีบริษัทฯ อาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นภายนอก เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท ทั้งนี้ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน

5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
 5.1 บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่าน ก่อนเข้าทำสัญญา หรือ เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
 5.2 บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือ คลาวด์ ที่ให้บริการ โดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิคเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟแวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทฯ จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามาราถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
 5.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมายรวมถึงบริษัทฯจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลสส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการป้องกันข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้นและดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

6. มาตรการและวิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
 บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และพัฒนาระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้พนักงานของบริษัทฯ ทุกระดับ และผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทฯ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากท่านสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยแก่บุคคลภายนอก หรือสูญหาย หรือถูกขโมย และได้มีการทำรายการโดยมิได้รับอนุญาต กรุณาแจ้งบริษัทฯ ได้ทันที

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
 7.1 หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์จะทราบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเอง สามารถยื่นคำร้องของและวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ได้ ณ ที่ทำการของบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน หรือ ภายในระยะเวลาอันสมควร
 7.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้
  1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูล
  2) สิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์เป็นปัจจุบัน
  3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่ บริษัทฯ มีการจัดระเบียบไว้ แล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้
  4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือไม่อนุญาตให้บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผล เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่าบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างท่านและผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือโดยอาศัยสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายอื่น
  5) สิทธิขอให้ดำเนินการลบ หรือทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่กรณีบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
  6) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่การเพิกถอนดังกล่าวไม่ส่งผลใด ๆ กับการประมวลผลข้อมูลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อบริษัทฯ
  7) สิทธิในการร้องเรียน ในกรณีที่บริษัทรวมถึงลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ณ ที่ทำการของบริษัทฯ หรืออีเมล moeko@plic.co.th เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้วบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลพิจารณาภายใน 30 วัน หรือภายในระยะเวลาอันสมควร อย่างไรก็ตาม สิทธิดังกล่าวอาจมีข้อกำหนดตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดและบริษัทฯ จะบันทึกคำร้องดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย

8. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการเพิกถอนความยินยอม
 8.1 บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ของ บริษัท หรือเป็นการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้
 8.2 บริษัทฯ กำหนดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาที่บริษัทกำหนด หรือตามข้อตกลงในสัญญาบริการ หรือคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความยินยอม หรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอ หรือที่ท่านได้ถอนความยินยอมเว้นแตจ่เก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด

9. ขอบเขตนโยบาย
 บริษัทฯ มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยแต่ตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบราม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองส่วนบุคคล และสร้างความตระหนักให้พนักงานทุกระดับ ของบริษัทฯ ปฏิบัติงานให้ถูกต้อง สอดคล้องกับนโยบาย แนวปฏิบัติ คู่มือ และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอยูเสมอ เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้หากมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข บริษัทฯ จะประกาศแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซค์ของบริษัท www.plic.co.th และ www.plicthermo.co.th

ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565

(นายวาตารุ คูซูโอะ)


PLIC Corp., Ltd.

Head office and Factory: 138 Moo5, Chiangrakyai, Samkhoke, Pathumthani 12160.

Tel: +66 (0) 2159-8222, +66 (0) 2975-1100

Map Catalog

Sales department

MS.SUCHINTANA TUBWONGSIN

Mobile: +66(0)83-988-0402
Email: suchintana@plic.co.th

MS.JARUPA SUSUWAN

Mobile: +66(0)90-978-9829
Email: jarupa@plic.co.th

MR.BANPHOT RUTHAIRUANGNON (Rayong, Prachinburi, Amata City Rayong)

Mobile: +66(0)61-516-2596
Email: banphot@plic.co.th

MS.WANPHEN CHATWICHIAN (Chonburi, Amata Nakorn, Chachoengsao)

Mobile: +66(0)89-089-5627
Email: wanphen@plic.co.th

MR.PIYAWAT LAOLERTWORAKUL

Mobile: +66(0)86-899-1838
Email: piyawat@plic.co.th

Top